約30年前の生徒さんから脳梗塞で入院しているというラインが来た。彼にはバンコクでの留学経験があるが、その時のタイ人講師から助言が届いたということで、私に転送して来てくれた。
ผู้ป่วยที่เป็น Stroke ทำกายภาพบำบัดมา ๓ปีเศษ อาการดีขึ้น มาเล่าให้ฟังว่า ……. เมื่อ๓ปีที่แล้ว ฉันแข็งแรงและสุขภาพดีมาก ออกกำลังกายทุกวันโดยปั่นจักรยาน และเดินไม่ต่ำกว่า ๘๐๐๐ก้าวทุกวัน ถึงกระนั้น ฉันยังเป็น Stroke
วันหนึ่งเมื่อ๓ปีกว่ามาแล้ว เมื่อฉันลุกขึ้นยืน ฉันรู้สึกวิงเวียงศีรษะ แล้วก็วูบล้มลง มือและเท้าของฉันชา แขนขาอ่อนแรง ฉันถูกส่งตัวไปโรงพยาบาล ผลการวินิจฉัย หลอดเลือดสมองซีกขวาแตก ฉันต้องเข้าห้องไอซียู ผ่าตัดและทำกายภาพบำบัด ทั้งที่โรงพยาบาลและที่บ้าน และ เมื่อฉันออกจากโรงพยาบาล ฉันต้องนั่งรถเข็นตลอด
ฉันคิดว่า ทำไมฉันถึงเป็น Stroke เมื่อฉันออกกำลังกายเป็นประจำ ไม่สูบบุหรี่ หรือ ดื่มแอลกอฮอล์ หมอพบว่าสาเหตุที่แท้จริง ร่างกายฉันขาดน้ำเป็นประจำ ดังนั้น ฉันจึงอยากจะตือนเพื่อนทุกคนว่าอย่าลืมจิบน้ำตลอดวัน เพื่อให้ร่างกายไม่ขาดน้ำ
ทุกคนต้องดื่มน้ำปริมาณเท่าไหร่ จึงจะเหมาะสม หมอแนะนำว่าน้ำหนักตัวเรา ๑กิโลกรัม ต้องดื่มน้ำอย่างน้อย ๓๐ซีซี เช่น น้ำหนักตัวเรา ๗๐กก. จะต้องดื่มน้ำเท่ากับ ๗๐x๓๐ = ๒๑๐๐ซีซี. ต่อวัน แม้ดื่มน้ำเยอะ อาจต้องเข้าห้องน้ำบ่อย แต่ดีกว่าเป็น Stroke นะ
สำคัญ ก่อน/หลังออกกำลังกายอย่างน้อย ควรดื่มน้ำ ๑ แก้ว ก่อน/หลังอาหาร ควรดื่มน้ำ ๒ แก้ว ก่อนนอน ๒,๓ ชม. ดื่มน้ำ ๑ แก้ว (ไม่ควรดื่มแล้วนอนทันที) ตื่นนอนดื่มน้ำ ๑,๒ แก้ว
หากเราดื่มน้ำเพียงพอ ในแต่ละวัน จะช่วยป้องกัน Stroke ให้ห่างไกลจากตัวเราได้ นอกจากน้ัน หมอฝากมาให้ช่วยแจ้งผู้สูงอายุทุกท่านว่า ในช่วงเปลี่ยนอิริยาบท จากนอน หรือ นั่ง เป็นลุกขึ้นยืน ขอให้ทำอะไรเร็วช้าลง หากทำอะไรเร็วเกินไป ความดันอาจสวิง จาจวูบได้ หรือ เส้นเลือดอาจแตกได้ ขอเพิ่มความมีสติให้มากขึ้น “แก่แล้ว ต้องเจียมตัวนะ จะได้มีอายุยืนยาวแล้วยังช่วยตัวเองได้ ”